การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าและการใช้อย่างถูกวิธี

เครื่องซักผ้าปัจจุบันนี้เครื่องซักผ้าแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานในบ้านไปแล้ว การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยผู้ซื้อควรเลือกให้ตรงกับการใช้งานและงบประมาณที่มีอย่างเหมาะสม ดังนี้
1. ดูความคงทนเข็งแรงเป็นหลัก โดยลองเคาะที่ตัวถังเพื่อดูวัสดุที่ใช้ว่ามีความแข็งแรงทนทานขนาดไหน วัดจากเสียงที่เราได้ยินกับความแข็งแกร่งตอนเคาะ นอกจากนี้น้ำหนักของตัวเครื่องและความจุในการซัก ที่ระบุในสเปกก็บอกถึงความแข็งแรงได้ ยิ่งความจุมากก็ยิ่งแข็งแรง และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเครื่องที่ใช้เหล็กทำเป็นตัวถังเครื่อง เพราะจะเกิดสนิมได้ง่าย ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่ใช้พลาสติกแข็งหนาทำโครงสร้างด้านนอกจะดีกว่า
2. ความจุของตัวถัง เลือกความจุให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากนี้ควรเปรียบเทียบกำลังไฟที่ใช้กับความจุของถังซัก เทียบกันหลายๆ รุ่น ก็จะได้เครื่องที่ตรงกับความต้องการและประหยัดไฟ
3. ฟังก์ชั่นการซัก ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า หากเลือกซื้อแบบถังคู่ก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะซักแล้วผลที่ได้ไม่แตกต่างกันจนเห็นได้ชัดเจน จะต่างกันในเรื่องของราคาเครื่องอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นถังเดี่ยว ต้องคิดมากหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้มีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในเครื่องซักผ้า บางคนซื้อไปไม่เคยใช้ก็มี ผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก บางเครื่องมีระบบปั่นแห้ง แบบปั่นแล้วหยิบมารีดได้เลย ซึ่งไม่แตกต่างกับปั่นแห้งทั่วไปเพียงแต่ปั่นนานกว่าเท่านั้น เครื่องธรรมดาเพิ่มเวลาปั่นก็ได้แล้ว แถมอันตรายกับเนื้อผ้ามากๆ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกเฉพาะที่จำเป็นและเห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ใช้เท่านั้น
4. ยี่ห้อและการรับประกัน ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ แต่เครื่องซักผ้าถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียน้อยมาก ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานเกิน 5 ปีขึ้นไป

เครื่องซักผ้าแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร
1. เครื่องซักผ้าฝาบน 2 ถัง( กึ่งอัตโนมัติ ) เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบซักผ้าครั้งละไม่มาก และชอบการแยกผ้าที่ซักออกเป็นครั้งๆหรือเป็นกลุ่มๆ เพราะสามารถหยุดซักโดยไม่ต้องถ่ายน้ำทิ้งหรือใช้น้ำและผงซํกฟอกนั้นซ้ำได้อีก เวลาซักโดยประมาณ 30 – 90 นาที
2. เครื่องซักผ้าฝาบน (อัตโนมัติ) เหมาะสำหรับผู้รักความคล่องตัว สะดวกสบาย พื้นที่ติดตั้งมีจำนวนจำกัด ราคาขึ้นอยู่กับโปรแกรมอัตโนมัติต่างๆและเทคนิคพิเศษ ทำให้เลือกได้มากกว่าประเภทอื่น เวลาซํกโดยประมาณ 27-90 นาที
3. เครื่องซักผ้าฝาหน้า เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะอาด ประณีต ให้ความสำคัญของการถนอมเนื้อผ้า มีความทนทานในการใช้งาน เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ซักในปริมาณมากและบ่อยครั้ง เวลาในการซักโดยประมาณ 30 – 140 นาที
4.เครื่องซักผ้าและอบผ้าในตัว (ฝาหน้า) เหมาะสำหรับีวิตประจำวันที่เร่งรีบ และการงานในทิ่อยู่อาศัยพื้นที่จำกัด หรือมีที่สำหรับตากผ้าไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะซักปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง